สวัสดีค่ะทุกท่าน เจอกันอีกแล้วนะคะ จากบล็อกที่ผ่าน ๆ มา เราได้พาทุกท่านไปท่องเที่ยวโบราณสถานในที่ต่าง ๆ กันมาเต็มอิ่มแล้ว แต่วันนี้! ...มาแปลกค่ะ "อะไรเอ่ย...โบราณคดี" จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือ "กลองมโหระทึก" ผลผลิตจากวัฒนธรรมดองซอน ประเทศเวียดนามนั่นเองค่ะ เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไปท่องโลกแห่งโบราณคดีไปพร้อมกันเลยยยย 😆😆
กลองมโหระทึก วัฒนธรรมดองซอน
ที่มา : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/5f/Tambour-song-da2.jpg/350px-Tambour-song-da2.jpg
มโหระทึก คืออะไร...?
"มโหระทึก" ไม่ใช่คำไทยแท้ เป็นคำโบราณที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ แต่กร่อนเสียงจึงทำให้เสียงเพี้ยนไป จาก "มโหระทึก" เหลือเพียง "หรทึก" จัดเป็นเครื่องประโคมตีชนิดหนึ่งที่มีเสียงดังมาก ในกฎมณเฑียรบาลจึงบอกว่า "ขุนดนตรีหรทึก" ในไตรภูมิบอกว่า "มโหระทึกกึกก้อง"
"มโหระทึก" เป็นกลองชนิดหนึ่งทำด้วยโลหะ มีหน้าเดียว ไม่ขึงหนังเหมือนกลองทั่ว ๆ ไป มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ตรงกลางคอดเล็กน้อย ส่วนฐานจะกลวง มีหูติดข้างตัวกลอง 2 คู่ สำหรับร้อยเชือกหามหรือแขวนกับหลัก ที่หน้ากลองจะเป็นแผ่นเรียบ บางวัฒนธรรมก็มีประติมากรรมกบบริเวณรอบหน้ากลอง 4 ทิศ เพื่อตีขอฝน เพราะเชื่อกันว่า เสียงกลองเป็นเสมือนเสียงกบร้อง
กลองกบ
ที่มา : www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=11717
กลองมโหระทึกนี้ ไทยเรานิยมใช้ตีประโคมทั้งงานราษฎร์ งานหลวงมาแต่โบราณ (ปรากฏหลักฐานที่กล่าวถึงในไตรภูมิพระร่วงสมัยสุโขทัย) และในปัจจุบันนี้ยังใช้ประโคมตีร่วมกับแตรสังข์ในงานพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น ในโอกาสที่พระมหากษัตริย์เสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตรา เป็นต้น
ความเป็นมาของกลองมโหระทึก
กลองมโหระทึกเป็นตัวแทนของอารยธรรมเริ่มแรกในภูมิภาคและเป็นวัฒนธรรมที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การค้นพบกลองมโหระทึก เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงความรู้และความสามารถด้านศิลปกรรมของคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 3,000 ปีมาแล้ว และยังแสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตที่มีความอุดมสมบูรณ์ จากลวดลายบนหน้ากลอง เช่น ลายปลา ลายคลื่นน้ำ
มีงานเขียนของชาวตะวันตก G.E.Rumphius และ E.C.Bacsolit กล่าวถึงโบราณวัตถุสำริดนี้ในวัฒนธรรมดองซอนที่พบในอินโดนีเซีย ล่วงมาถึงปี พ.ศ. 2445 Franz Heger ชาวออยเตรเลีย เสนอความคิดว่า กลองมโหระทึกนี้มีต้นกำเนิดมาจากทางตอนเหนืองของประเทศเวียดนาม ซึ่งแนวความคิดนี้ก็ได้รับการสนับสนุนจาก Bezacier ว่า กลองมโหระทึกนี้มีการผลิตครั้งแรกในวัฒนธรรมดองซอน สมัยก่อนประวัติศาสตร์ถึงกึ่งประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมดองซอน (Dong Son culture) เป็นวัฒนธรรมการทำโลหะสำริดระหว่าง 500 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง 100 ปีก่อนคริสต์ศักราช (พุทธศตวรรษที่ 1-5) วัฒนธรรมนี้พบครั้งแรกที่ดองซอนในจังหวัดธานหัว ประเทศเวียดนาม ลักษณะสำคัญของดองซอนคือการทำกลองมโหระทึกสำริด (Bronze Drum) ซึ่งได้รับการถ่ายทอดทางเทคโนโลยีและรูปแบบมาจากประเทศจีน ในสมัยราชวงศ์จิวและราชวงศ์ฮั่น และวัฒนธรรมดองซอนได้เผยแพร่เข้ามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยสองเส้นทาง คือ เส้นทางแรก จะเป็นเส้นทางลุ่มแม่น้ำโขง ระหว่างลาวและกัมพูชา และเส้นทางที่สอง คือ การล่องลงไปทางใต้ทางชายฝั่งทะเลลงสู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยคาบสมุทรมลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซีย
กลองมโหระทึกในประเทศไทย
กลองมโหระทึกในประเทศไทย จากการสำรวจเบื้องต้นที่ผ่านมา (พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2545) ที่พบแล้วนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูมิถาคต่าง ๆ ดังนี้
ภาคเหนือ - สำรวจพบ 8 รายการ ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย และน่าน
ภาคกลาง - สำรวจพบ 6 รายการ ในจังหวัดตราด ราชบุรี และกาญจนบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - สำรวจพบ 7 รายการ ในจังหวัด กาฬสินธุ์ มุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี และเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว 1 รายการ
กลองมโหระทึก ที่ถูกค้นพบที่อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร
ที่มา : www.tavel2mukdahan.com/2012/12/ma-ho-ra-turk-drums-greatly.html
ภาคใต้ - สำรวจพบ 11 รายการ ในจังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา
วัตถุประสงค์ในการผลิตกลองมโหระทึก
1. ใช้เป็นเครื่องแสดงฐานะ ความมั่งคั่ง
แสดงถึงอำนาจ ความเป็นผู้นำ และฐานะที่สูงส่ง
2. ใช้เป็นวัตถุสำคัญในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย
หากมีผู้ตาย จะต้องฝังกลองมโหระทึกไปในหลุม ฝังศพ และ นิยมตีเพื่อเรียกวิญญาณผู้ตาย
3. ใช้ตีเป็นสัญญาณในการสงคราม
เป็นการข่มขวัญข้าศึกและสร้างความฮึกเหิมให้แก่ทหาร
4. ใช้ตีในพิธีกรรมขอฝน
มีความเชื่อว่า เมื่อตีกลองมโหระทึกที่มีรูปกบหล่ออยู่ทั้ง 4 ทิศ จะเป็นการเรียกฝนเมื่ออยู่ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง
5. ใช้ตีเพื่อการบำบัดโรคและขับไล่ภูติผี
เป็นความเชื่อของกลุ่มชนเย่ห์ (Yueh) ที่เชื่อว่าเป็นการชุมนุม เทวดา สามารถบำบัดโรคภัยและความทุกข์ยากให้หมดสิ้นไปได้
6. ใช้ในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
ใช้ตีตามงานมงคล งานวัด งานพระราชพิธี และในโอกาสเกี่ยว กับการเกษตร เพื่อผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์
รายละเอียดและลักษณะของกลองมโหระทึก
มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลองมโหระทึกที่ผลิตในสมัยแรกนั้น ขั้นตอนการหล่ออาจใช้กรรมวิธีเดียวกับการหล่อระฆังซึ่งเป็นการหล่อด้วยพิมพ์ จากนั้นนำส่วนต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกันจนเป็นกลองมโหระทึกที่สมบูรณ์ ส่วนกลองมโหระทึกที่ผลิตในสมัยหลัง อาจใช้กรรมวิธีแทนที่โลหะด้วยขี้ผึ้ง ทำให้ลักษณะ ลวดลาย และรูปทรงของกลองมโหระทึกในรุ่นหลังนั้นมีความประณีตขึ้น
กลองมโหระทึก นับเป็นร่องรอยภูมิปัญญาแห่งประวัติศาสตร์ จากภูมิภาคสู่ภูมิภาค แสดงให้เห็นถึงการรับเอาวัฒนธรรมและความสามารถด้านศิลปกรรมของมนุษย์ในสมัยนั้น ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรมของตน และยังแสดงถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยมา
______________________________________
เอาล่ะ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ได้รับความรู้กันไปเต็มอิ่มเลยใช่ไหมล่ะคะ ด้วยวิชาการที่แน่นเอี๊ยดเพิ่มความรู้ด้านโบราณคดีให้กับทุกท่าน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านตามสมควรนะคะ เจอกันใหม่บล็อกหน้า (?) ลาไปก่อน สวัสดีค่าาา 🙏👋❤
* จิ้มลิงก์ ๆ *
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=YkR0duBNUcA
อ้างอิง
ชลิต ชัยครรชิต. (2540). โบราณคดีเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 2.
ขอนแก่น : ภาควิชาประวัติศาสตร์และโบราณคดี มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น.
____. (2555). กลองมโหระทึก กลองโบราณคู่เมืองมุกดาหาร.
แหล่งที่มา http://www.travel2mukdahan.com/2012/12/ma-ho-
ra-turk-drums-greatly.html. 19 มีนาคม 2561.
Janthima. (2556). กลองมโหระทึก. แหล่งที่มา
https://janthimablog.wordpress.com/category/โบราณวัตถุสมัย
ก่อนประว/กลองมโหระทึก/. 19 มีนาคม 2561.
____. (___). กลองมโหระทึก. แหล่งที่มา
htpp://www.virtualmuseum.finearts.go.th/royalbarges/index.php/th/hilight/51-กลองมโหระทึก-bronze-drum.html. 19 มีนาคม 2561.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น